เริ่มต้นการอบสมุนไพรที่สืบทอดมาจากภูมิปัญญาไทยตั้งแต่อดีตโดยเดิมทีวิธีนี้จะเป็นการใช้ในการรักษาและฟื้นฟูสตรีหลังคลอดบุตรทดแทนการอยู่ไฟหลังคลอดและช่วยขับของเสียในร่างกายออกทางผิวหนังทางเหงื่อและขับน้ำคาวปลาที่ยังค้างอยู่ในการคลอดบุตร แต่ช่วยในเรื่องของผิวพรรณเปล่งปลั่งและการไหลเวียนเลือดดีขึ้น
และในปัจจุบันได้มีกรรมวิธีในการพัฒนาวิธีการดูแลสุขภาพนี้มาเผยแพร่และใช้ในบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่เฉพาะสตรีหลังคลอดบุตร สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปและมีการใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นเพราะว่าจะช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม และใช้ควบคู่กับการนวดเพื่อสุขภาพได้อีกด้วย
สำหรับสมุนไพรที่ใช้ในการอบ สามารถหาได้ตามท้องถิ่นทั่วไป เช่น ผิวมะกรูด ใบมะขาม ขมิ้นชัน หัวไพร ตะไคร้ ใบส้มป่อย ผักบุ้งไทย และผงการบูรค่ะ
ประโยชน์ที่ได้รับจากการอบสมุนไพร
1. ช่วยบรรเทาอาการ หวัดคัดจมูก
2. ช่วยในเรื่องอาการหอบหืดเรื้อรังเนื่องจากทำให้ปลอดภัยใหญ่ตัวได้ดีขึ้นและระบบการหายใจปลอดโปร่งคล่องตัวมากขึ้น
3. รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
4. ทำให้ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
5.ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตสะดวก ลดความดันโลหิตสูงผิวพรรณเปล่งปลั่งมีเลือดฝาด
6. ช่วยให้มารดาหลังคลอดมีสุขภาพดีขึ้นขับน้ำเข้าตาและมดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น
7. ช่วยในเรื่องอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเส้นเอ็นที่ตึงคลายตัวลง
8. ช่วยในเรื่องของอาการเหน็บชาตามปลายมือปลายเท้าและแขนขา
9. ช่วยในเรื่องของไขมันส่วนเกินในร่างกายลดเซลลูไลท์ผิวเปลือกส้ม
10. ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใสลดฝ้ากระได้ดี
เนื่องจากข้อดีดังกล่าวข้างต้นแล้วการอบสมุนไพรยังมีข้อห้ามและข้อควรระวังด้วยดังต่อไปนี้
1. ไม่ควรอบขนาดนี้ไข้สูง (มากกว่า 38 องศา) เนื่องจากการอบสมุนไพรจากทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น จะทำให้ติดเชื้อหรือว่าช็อคได้
2. กรณีมีติดต่อโรคร้ายแรงทุกชนิดไม่ควรอบ
3. โรคประจำตัวบางชนิดเช่นโรคไตโรคลมชักโรคหัวใจโรคหอบหืด ความดันโลหิตสูงที่เกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนอบ
4. อาการอักเสบจากบาดแผลต่างๆเช่นแผลสด หรือแผลที่กำลังจะหาย อาจจะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
5. สตรีในระหว่างมีประจำเดือนไม่ควรออกเด็ดขาด
6. อาการปวดศีรษะ พักผ่อนน้อย เช่นการเวียนหัวคลื่นไส้อาเจียน
7. หลังรับประทานอาหารใหม่ๆต้องรอให้ย่อยก่อน ครึ่งถึง 1 ชั่วโมง
8. อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ 40 ถึง 50 องศา 1 ครั้งไม่ควรเกิน 30 นาทีและเป็นรอบอบครั้งละ 10 นาที
จะเห็นได้ว่าการอบสมุนไพรมีทั้งคุณประโยชน์และข้อควรระวังดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่สามารถดูแลตัวเองได้ง่ายทั้งที่บ้านสามารถสั่งซื้อตู้อบสมุนไพรจากร้านขายอุปกรณ์สปาไปใช้ประจำบ้านหรือลองไปใช้บริการตามโรงพยาบาลชุมชนหรือหน่วยงานที่มีบริการนี้ หรืออาจจะเป็นในร้านนวดเพื่อสุขภาพควบคู่กับการนวดแผนไทยร่วมด้วย และวิธีการอบสมุนไพรนี้สามารถทำควบคู่กับการดูแลสุขภาพอื่นๆเช่นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย
ในปัจจุบันปัจจุบันได้มีรูปแบบทางเลือกในการอบสมุนไพรไม่ว่าจะเป็นตู้ไม้หรือทำเป็นห้องในการอบสมุนไพรโดยเฉพาะที่มีหลากหลายขนาดให้เลือกตั้งแต่ขนาดนั่งคนเดียวนั่ง 2 คนหรือนั่งเป็นครอบครัว 3-4 คน โดยโครงสร้างจะทำจากตู้อบสมุนไพรไม้สน นำเข้าซึ่งจะมีคุณสมบัติทนความร้อนและความชื้นได้ดี รุ่นนี้ก็จะมีการติดตั้งระบบไฟและการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมและช่วยเซฟตี้ในเรื่องของความปลอดภัยของผู้ใช้งานอีกด้วยเพราะว่าจะมีการตัดไฟหากระบบไฟในตู้มีปัญหาค่ะ
อีกรูปแบบจะเป็นตู้อบสมุนไไพรไอน้ำแบบโดมที่สามารถยื่นศีรษะออกมาได้ มีทั้งแบบผ้าและแบบไม้ขึ้นอยู่กับรูปแบบการออกแบบสินค้า ระบบการใช้งานก็จะเป็นการทำความร้อนจากหม้อต้มสมุนไพรเช่นกันมีทั้งรูปแบบการวางหม้อต้มอยู่ข้างตู้และการต่อสายส่งไอน้ำเข้ามาในตู้และการวางหม้อต้มในตู้อบใต้ฐานที่นั่ง ( สำหรับตู้ไม้) การเลือกใช้งานสามารถเลือกให้เหมาะสมเช่นหาพื้นที่แคบหรือว่าใช้คนเดียวสามารถใช้เป็นแบบผ้าที่สามารถเคลื่อนย้ายสะดวก เนื้อหาเป็นร้านที่เน้นความแข็งแรงความมาตรฐานทนทานแนะนำใช้เป็นรูปแบบตู้อบไม้สนค่ะ
นอกจากนี้การสั่งซื้อตู้อบสมุนไพรควรเช็คข้อมูลให้รอบคอบก่อนสั่งซื้อจากร้านที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายและมีความน่าเชื่อถือโดยตรง มีรีวิวการสั่งซื้อจากลูกค้าที่น่าเชื่อถือค่ะ
สนใจสามารถสอบถามรายการได้ที่เบอร์ 080-588-7444 02-062-7711
Line: https://lin.ee/M27muQD
เว็ปไซต์ https://saunaherb.com